
ปัญหาหน้าท้องลาย หย่อนคล้อย เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงหลังคลอด เนื่องจากผิวหนังบริเวณหน้าท้องขยายตัวอย่างมากระหว่างตั้งครรภ์ และไม่สามารถหดตัวกลับมาเหมือนเดิมได้ทั้งหมด ซึ่งส่งผลให้หลายคนขาดความมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วย การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) ซึ่งเป็นการศัลยกรรมที่ช่วยให้หน้าท้องกลับมาเรียบตึง กระชับ และยังทำให้เอวดูเข้ารูปมากขึ้นด้วย
การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นหัตถการที่ซับซ้อนและต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลไม่กี่แห่งที่ให้บริการด้านนี้ โรงพยาบาลเลอลักษณ์เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่ให้บริการนี้มานาน ทำให้คุณสามารถไว้วางใจได้ในเรื่องฝีมือและความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับโรงพยาบาล
ข้อแนะนำเพิ่มเติม: การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ดังนั้นคุณควรวางแผนชีวิตให้ดีก่อนตัดสินใจทำ เพราะหากมีการตั้งครรภ์อีกครั้งหลังการผ่าตัด อาจส่งผลกระทบต่อแผลที่เย็บไว้ได้ ควรปรึกษาและพูดคุยกับคู่ชีวิตให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคตครับ
การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) เหมาะกับใคร?
การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด เหมาะสำหรับบุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้:
- ผู้ที่มีผิวหนังหน้าท้องหย่อนคล้อยหลังคลอดบุตร: เป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าท้องลายและหย่อนยานจากการตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีหน้าท้องหย่อนคล้อยหลังลดน้ำหนัก: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผิวหนังไม่สามารถหดตัวกลับมาได้ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีหน้าท้องหย่อนคล้อยหลังการดูดไขมัน: การดูดไขมันอย่างเดียวอาจไม่สามารถแก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยได้ทั้งหมด
ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ เราให้บริการด้วยเทคนิค Full Tummy Tuck ซึ่งเป็นการผ่าตัดหนังหน้าท้องพร้อมกับการย้ายสะดือ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบในครั้งเดียว โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 12 ปี ทำให้หน้าท้องของคุณกลับมา ตึง แบน และกระชับ พร้อมรอยแผลที่เรียบเนียนสวยงาม
การตัดหนังหน้าท้องร่วมกับการย้ายสะดือ (Full Tummy Tuck)
การผ่าตัด Full Tummy Tuck เป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าท้องหย่อนยานและแตกลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่เคยผ่านการคลอดบุตรหรือมีรอยแผลผ่าตัดตามแนวดิ่งที่หน้าท้อง
ในขั้นตอนการผ่าตัด แพทย์จะทำการกรีดแผลยาวตั้งแต่บริเวณเหนือหัวหน่าวตลอดแนว เพื่อดึงผิวหนังส่วนที่หย่อนยานให้ตึงขึ้น และต้อง ย้ายตำแหน่งสะดือใหม่ เนื่องจากผิวหนังเดิมที่อยู่เหนือสะดือจะถูกดึงลงมาจนถึงหัวหน่าว ส่วนผิวหนังที่อยู่ระหว่างสะดือกับหัวหน่าวจะถูกตัดออกทั้งหมด
การผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งหลังทำแล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เพราะสามารถตัดผิวหนังส่วนเกินออกได้มาก ทำให้หน้าท้องดูเรียบ แบน และกระชับขึ้นครับ

การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบไม่ย้ายสะดือ (Mini Tummy Tuck)
Mini Tummy Tuck เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการผ่าตัดหนังหน้าท้องที่เน้นการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยในบริเวณที่ต่ำกว่าสะดือลงมาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่ไม่เคยตั้งครรภ์
- ผู้ที่หน้าท้องหย่อนคล้อยจากการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่มีไขมันและผิวหนังส่วนล่างที่ต้องตัดออก
ข้อดีและข้อจำกัด
- รอยแผลสั้นกว่า: รอยแผลผ่าตัดจะสั้นกว่าแบบ Full Tummy Tuck ทำให้แผลเล็กและเห็นได้ชัดน้อยกว่า
- ไม่ต้องย้ายสะดือ: เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเฉพาะส่วนล่าง จึงไม่ต้องมีการตกแต่งหรือย้ายตำแหน่งสะดือใหม่
- ใช้เวลาผ่าตัดน้อยกว่า: การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ข้อจำกัด: Mini Tummy Tuck ไม่ได้แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของหน้าท้องทั้งหมด จึงเหมาะกับคนที่มีผิวหนังหย่อนเฉพาะบริเวณส่วนล่างเท่านั้น
หากคุณมีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยเฉพาะส่วนล่าง เทคนิคนี้อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณครับ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหนังหน้าท้อง
การเตรียมตัวที่ถูกต้องก่อนการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงต่างๆ
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์: ควรงดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากจะส่งผลให้แผลหายช้า
- งดยาและอาหารเสริม: งดทานยาบางชนิด เช่น แอสไพริน (Aspirin) และไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) รวมถึงวิตามินอีและอาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดออกง่าย อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- แจ้งประวัติสุขภาพ: แจ้งแพทย์ให้ทราบถึงโรคประจำตัวทั้งหมด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมถึงประวัติการแพ้ยาหรืออาหารเสริม เพื่อวางแผนการรักษาที่ปลอดภัยที่สุด
วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง
การดูแลแผลผ่าตัดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- อาการเจ็บแผล: อาการเจ็บและระบมบริเวณแผลในช่วง 1 สัปดาห์แรกถือเป็นเรื่องปกติ หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น
- การดูแลแผล: ห้ามให้แผลโดนน้ำในช่วงแรก ควรใช้การเช็ดตัวแทนการอาบน้ำ
- การเคลื่อนไหว: ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรเดินแบบก้มตัวเล็กน้อยเพื่อไม่ให้แผลตึง จากนั้นจึงค่อยๆ ยืดตัวขึ้น เพื่อป้องกันอาการปวดหลังและเอว
- งดกิจกรรมหนัก: งดการออกกำลังกายและยกของหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์
- การใส่สเตย์: ควรใส่สเตย์รัดหน้าท้องอย่างต่อเนื่องนาน 3 เดือน เพื่อช่วยให้หน้าท้องเข้าที่
- การดูแลแผลระยะยาว: เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่และแผลค่อนข้างยาว ควรหมั่นทาโลชั่นหรือครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอหลังจากแผลแห้งสนิทดีแล้ว ซึ่งจะช่วยให้รอยแผลจางลงเร็วขึ้น โดยทั่วไปแผลจะเรียบเนียนสวยงามต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี
- การนัดหมาย: กลับมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อทำการตัดไหมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ทำไมต้องเลือกทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลเลอลักษณ์
การตัดสินใจทำศัลยกรรมเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งจำเป็น โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีจุดเด่นหลายประการที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับบริการครับ
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: แพทย์ของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ทุกท่านเป็น ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย (ThSAPS) ซึ่งต้องผ่านการศึกษาและฝึกฝนรวมกว่า 12 ปี และมีประสบการณ์การผ่าตัดศัลยกรรมมากกว่า 10 ปี ทำให้คุณมั่นใจในฝีมือและความน่าเชื่อถือของทีมแพทย์ได้อย่างแน่นอน
- มาตรฐานโรงพยาบาลและความปลอดภัยสูง: โรงพยาบาลมีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ มีเครื่องมือแพทย์ครบครัน และห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อด้วยระบบ HEPA Filter ซึ่งช่วยกรองฝุ่นและเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบ Oxygen Pipeline และทีมแพทย์พยาบาลที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีฉุกเฉิน
- การรับประกันผลงาน: ทางโรงพยาบาลมีการ รับประกันงานศัลยกรรมภายใน 6 เดือน หลังการผ่าตัด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกขั้นตอนของการผ่าตัด ทั้งการผ่าตัดหน้าท้อง ผ่าตัดหน้าท้องลาย หรือการตัดหนังหน้าท้อง จะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน